รีวิว Spring Airlines สายการบินโลคอสของจีน กับการบินไปเที่ยวเมืองจีนครั้งแรกด้วยสายการบินนี้
ตั้งแต่คนไทยได้ฟรีวีซ่าเข้าประเทศจีนโดยไม่ต้องเสียค่าทำวีซ่าเหมือนเมื่อก่อน ทำให้จีนกลายเป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าบินไปท่องเที่ยวเป็นอย่างมากครับ และการไปเมืองจีนในมณฑลต่างๆ ก็ไปง่ายไปสะดวกเพราะมีหลายสายการบินให้บริการบินตรงเยอะอยู่แล้ว
ครั้งนี้ผมบินไปเที่ยวจีนด้วยสายการบินโลวคอสของจีนชื่อ Spring Airlines ครับ ก็ต้องบอกตรงๆ ว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินชื่อสายการบินมาก่อนเลย แต่เสิร์ชกูเกิ้ลไฟลท์ดูแล้วได้เวลาดีและราคาดีที่สุดเหมือนกัน จึงลองเลือกไปด้วยสายการบินนี้ดูครับ
รีวิวสายการบิน Spring Airlines |
การจองตั๋วและการชำระค่าตั๋ว
ผมเปรียบเทียบราคาที่กูเกิลไฟลท์ดูก่อนว่ามีสายการบินไหนน่าสนใจในช่วงวันเวลาที่ผมต้องการไปบ้าง ก็เจอสปริงแอร์ไลน์นี่แหละที่ได้เวลาดีและราคาดีสุดครับ เลยกดไปจองตั๋วที่เว็บตรงของเค้าเพื่อความชัวร์ที่ https://th.ch.com ซึ่งราคาที่โชว์ของเที่ยวบินนั้นยังไม่ใช่ราคาสุดท้าย (ต้องมี Tax และ Fee เพิ่มอีก)
และตอนกดเลือกราคา ระบบจะมีออฟชั่นเสริมเพิ่มเติมให้เราเลือกว่าจะเพิ่มน้ำหนักกระเป๋าด้วยเลยหรือไม่ ซึ่งเลือกได้ว่าจะเอาเพิ่ม 20 กก. หรือ 30 กก. + ได้แถว Front Row ด้วยนะครับ และก็ยังสั่งอาหารบนเครื่องล่วงหน้า และเลือกที่นั่งได้อีกด้วย (เพิ่มเงินประมาณ 400-500 บาท) ชำระตั๋วเครื่องบินผ่านหน้าเว็บไซต์ด้วยบัตรเครดิตเท่านั้นครับ
*เนื่องจากเป็นโลคอสจึงไม่มีบริการเสิร์ฟอาหารฟรีบนเครื่องในทุกออฟชั่นครับ ต้องจ่ายเงินซื้อเพิ่มเท่านั้น
เค้าเตอร์เช็คอินสายการบินอยู่แถวที่ 5 |
การเช็คอินออนไลน์/สนามบิน
ถ้าไม่มีกระเป๋าลากโหลดเพิ่ม เราสามารถเช็คอินผ่านออนไลน์ทางเว็บไซต์ได้เลยครับ ซึ่งสามารถถือขึ้นเครื่องได้ 7 กก. (หรือ 10 กก. ตอนเลือกซื้อตั๋ว) แต่ถ้ามีกระเป๋าโหลดยังไงก็ต้องไปเช็คอินที่เค้าเตอร์เพื่อชั่งน้ำหนักกระเป๋าก่อน และอ่านรีวิวมาว่าสายการบินนี้เค้าจะเป๊ะเรื่อง นน. กระเป๋าทั้งโหลดและถือขึ้นเครื่อง
*ดังนั้นควรชั่งและเตรียมเรื่องนน.กระเป๋าให้พร้อมเพื่อความสบายใจตอนเช็คอินดีกว่าครับ อย่าเสี่ยงเลยนะคร้าบ เพราะโดนจับชั่งแน่นอน (ส่วนผมเป้หิ้วขึ้นเครื่องไม่ใหญ่มาก เค้าเตอร์เลยไม่ชั่ง)
ที่นั่งบนเครื่องบิน |
เวลาขึ้นเครื่องและที่นั่ง
ทั้งลำมีแต่ชาวจีนอย่างไม่ต้องสงสัยครับ ทำให้ตัวเองต้องตื่นตัวกับการแซงคิวและปาดหน้าอย่างมีสติ เรื่องเวลา Boarding Time เที่ยวที่ผมไปจากดอนเมืองเลยเวลาไปประมาณ 10 นาทีเพราะรอเครื่องขาเข้าที่มาช้านิดหน่อย แต่ก็ออกได้ตรงตามเวลาบินไม่ได้ดีเลย์แต่อย่างใด
ที่นั่งบนเครื่อง A320-200 เป็นแบบ 3-3 ครับ (ผมได้นั่งริมหน้าต่าง) เบาะที่นั่งปรับเอนไม่ได้และไม่มีที่วางเท้า (ค่อนข้างก๊อกแก๊ก) และก็ไม่มีจอใดๆ เหมือนโลคอสแอร์ไลน์เจ้าอื่น เอาจริงๆ ก็รู้สึกถึงความคับแคบและความนั่งไม่สบายอยู่ตลอด 3 ชั่วโมงครับ แต่เป็นคนตัวเล็กเลยไม่ได้อึดอัดมากเท่าไหร่ จะลำบากแค่ตอนขออาตี๋อาหมวยออกไปเข้าห้องน้ำ
*สุดท้าย ลืมลืมโหลดเพลงแบบ Offline ในโทรศัพท์มา เลยนั่งแบบเหงาๆ มาก เพราะบินตอนบ่ายแดดจ้าที่ไม่สามารถหลับตาลงได้จริงๆ
การบริการบนเครื่องบิน |
การบริการบนเครื่องบิน
เอาจริงๆ ผมไม่ได้คาดหวังกับการบริการบนเครื่องโลคอสเท่าไหร่อยู่แล้วนะ (เลยไม่ได้ผิดหวังครับ) ผู้โดยสารชาวจีนเองก็ปล่อยจอยตามอำเภอใจกันอยู่แล้วซะด้วย แอร์ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่กับการดูหนังเล่นมือถือตลอดการ take-off / landing บนเครื่องก็เลยดูสบายๆ (แอบอิหยังว่ะนิดนึง) ถึงแม้จะไม่มีลูกเรือเป็นคนไทยเลยก็ตาม
ถ้าใครไม่ได้สั่งอาหารมาก็จะมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องด้วยครับ เห็นคนจีนสแกนจ่ายด้วยมือถือกัน เลยไม่แน่ใจเหมือนกันว่าใช้เน็ตจากไหน และเวลาส่วนใหญ่ของลูกเรือก็คือการเสนอขายของดิวตี้ฟรีบนเครื่องครับ ซึ่งเค้าขายแบบจริงจังมากดูเพลินดี
เมนูอาหารบนเครื่องบิน |
เค้าเตอร์เช็คอินที่สนามบินเทียนฟู่ |
สรุปโดยรวมจากประสบการณ์ส่วนตัวกับสายการบิน Spring Airlines ในครั้งนี้ก็ต้องบอกตรงๆ ว่าถ้าให้เลือกได้บินไปจีนในครั้งต่อไปน่าจะไม่เลือกเป็นอันดับแรกๆ (ถ้าไม่ใช่เพราะราคาดีกว่า) เพราะติดเรื่องที่นั่งเรื่องเดียวนี่แหละที่ไม่ค่อยสบายเท่าไหร่กับการบิน 3-4 ชั่วโมง และจะเลือกบินที่สนามบินสุวรรณภูมิมากกว่าเพราะใกล้บ้าน คหสต. คิดว่า Spring Airlines เค้าน่าจะเน้นผู้โดยสายชาวจีนมากกว่าชาวต่างชาติ ผมก็เลยรู้สึกไม่ทัชใจเท่าไหร่ด้วยละครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น