13 ทักษะพื้นฐานของอาชีพเออี เพื่อก้าวสู่ซุปเปอร์เออีที่มงต้องลง
รับสมัคร “เออี สาวสวย ! มีคุณสมบัติดังนี้ ประสานงานขายกับลูกค้า, บุคลิกดี, มีความสามารถในการสื่อสาร, มีความรู้ด้านดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง และทำงานภายใต้ความกดดันได้ดี ถ้ามีประสบการณ์ 1 ปีขึ้นไปจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ” ข้อความประกาศรับสมัครงานตำแหน่ง “เออี” ที่ขึ้นมาหน้าฟีด ทำเอาผมขมวดคิ้ว ตามมาด้วยความสงสัยทันทีว่า.. การจะเป็นเออี จำเป็นไหมที่ต้อง สวย! แล้วถ้าไม่สวยล่ะ ไม่มีสิทธิ์การเป็นเออีเลยเหรอ
 |
| 13 ทักษะพื้นฐานของอาชีพเออี เพื่อก้าวสู่ซุปเปอร์เออีที่มงต้องลง |
เพราะ เออี ไม่ได้วิ่งเล่นอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์
เตรียมพร้อมด้วยทักษะพื้นฐานของการเป็นซุปเปอร์เออีที่ทุกคนควรมี ไม่ใช่ สวยแต่โง่! ผมเจ็บแทน พร่ำสอนน้องเออีอยู่เสมอว่า ห้ามใช้ความสวย นำการทำงาน เพราะมันไม่ยั่งยืน ต้องฉลาดและมีไหวพริบเป็นเลิศด้วยถึงจะคงกระพันธ์ เพราะสวยอย่างเดียว ไม่พอ บุคลิกภาพที่โดดเด่นและไหวพริบสำคัญกว่า ด้วย 13 ทักษะ สู่การเป็น SUPER AE.
- Communication: 1 สมอง 2 มือ พร้อมหัวใจทั้ง 4 ห้อง ต้องเต็มเปี่ยมไปด้วยการสื่อสารรู้เรื่อง รับสารได้แม่น ถ่ายทอดสารได้ตรงประเด็นไม่ตกหล่น เพราะงาน operation ระหว่างลูกค้าและทีมงาน คืองานหลักที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ความเบลอ มันเกิดขึ้นได้บางครั้งคราว ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่อย่าบ่อย เครื่องมือสื่อสารสมัยใหม่ อีเมล์และไลน์ ต้องคล่อง ตอบต้องไว แต่ต้องมั่นใจว่าถูกต้อง
- Presentation: ทักษะการนำเสนองานต่อหน้าลูกค้า ไม่ใช่แค่สำคัญ แต่มันสำคัญมาก ต้องใช้ความกล้าแสดงออก ต้องมีความมั่นใจและต้องรู้จริงในสิ่งที่กำลังนำเสนอ เพราะถ้านำเสนองานโดยไม่มั่นใจไปแล้ว ลูกค้าจะมั่นใจกับงานที่นำเสนอนั้นได้อย่างไร
- Documentation: งานเอกสารคือ งานที่น่าสนุก ของ เออี ไม่ว่าจะเป็น Quotation, Minutes meeting, Call report, Contract, Report และเอกสารเพิ่มเติมอีกหลายสิ่ง ยิ่งถ้าได้ทำงานราชการด้วยแล้วเรื่องเอกสารเป็นร้อยหน้า คือหน้าที่ที่เออีต้องใส่ใจและจัดการให้ได้
- Negotiation: เพราะเออีคือ “คนกลาง” ที่ต้องต่อรองเป็น เจาะแจ๊ะเจรจาพองาม ตามงานต้องได้ ไม่ต้องถึงกับสะตอ_ให้น่ารำคาญ รับผิดและขอโทษให้เป็นนิสัย ให้เครดิตเพื่อนร่วมงานคือค่านิยมที่ต้องมี ที่สำคัญ ต่อรองยังไงให้ลูกค้าที่เบี้ยวตังก์ จ่ายตังก์ให้ได้
- Service Mind: หัวใจสำคัญของงานบริการ มันก็คือหัวใจสำคัญของอาชีพเออี… เพราะมันคืออีก 1 หน้าที่เพื่อให้ลูกค้ามีความพึงพอใจ อยากร่วมงานด้วยต่อ อยากโทรมาปรึกษา อยากขอความช่วยเหลือ อยากคิดถึงเราเป็นคนแรก นอกจากเรื่องงาน ! แล้วคุณจะได้ “เพื่อน” ไม่ใช่ “ลูกค้า”
- Leadership: ถ้าเปรียบเทียบในสนามรบ เออีก็เหมือนเป็นนักรบแถวหน้า ที่ต้องกรุยทางให้ทีมข้างหลังเดินทางไปได้สะดวก ตามมารบถูกทิศพร้อมอาวุธถูกต้อง จนได้รับชัยชนะ ถ้าเออีไม่พาทีมเดินไปข้างหน้า ก็ไม่มีใครทำหน้าที่นี้แล้วจ๊ะ และที่สำคัญ “ต้องพร้อมปกป้องทีม” จากศัตรูรอบข้างให้ได้ อย่าวิ่งหนี !
- Common Sense: เป็นความเฉลี่ยวใจที่ต้องฉุดคิดได้ก่อนปัญหาจะเกิด หรือบานปลายต้องตายกับไปข้างนึง ยิ่งรู้เร็ว ยิ่งแก้ปัญหาได้ง่ายกว่า ชอบสงสัย ชอบตีโจทย์ ต้องถามคำถามเป็น เพื่อให้ได้สิ่งที่อยากรู้
- English: เพราะภาษาอังกฤษมันสำคัญไง ยิ่งถ้าต้องทำงานกับลูกค้าประเภทอินเตอร์ ดีกรีจบนอกที่ใช้อังกฤษในการสื่อสาร Yes, No, OK, Thank You แค่นั้นมันไม่พอ ฝึกใช้ หัดโต้ตอบ อ่านบรีฟภาษาอังกฤษได้ ตอบ Line เป็น ENG ได้ จึงชนะเลิศ
- Multi-Tasking: การทำงานได้หลายอย่างต้องห้ามมองข้าม ทำงานของแผนกอื่นๆได้นิดๆหน่อยๆ จะช่วยติดสปีดความเร็วให้งานได้อย่างไม่น่าเชือ ถ้าทำพร้อมกันไม่ไหว ให้ใช้เทคนิค Priority Management จัดการปัดออกอย่างสวยๆ
- Fast Learning: หัวต้องไว ใจต้องใฝ่รักการเรียนรู้ รู้ให้กว้าง รู้ให้มาก เพราะเออี ยิ่งรู้เยอะ ยิ่งดี จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาได้ คอมเม้นต์งานเป็น บอกแนวทางถูก ถ้าจะตอบลูกค้าเป็นแต่เพียงว่า “ขอปรึกษาทีมก่อนนะคะ” หรือตอบทีมว่า “ขอถามลูกค้าก่อนนะคะ” ทำบ่อยๆ แย่เลย
- Self-Control: เพราะเราต้องทำงานกับคน คน และคน ที่เค้าบอกว่าทำงานกับคนนั้นยากสุด มันคือเรื่องจริงไม่อิงนิยาย มีทั้งแรงกดดัน มีทั้งอารมณ์ที่อาจกระทบกระทั่งกันโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นต้องคุมให้อยู่หมัด ขจัด EQ ส่วนเกิน ที่เค้าบอกว่า ต้องถึก ต้องทน มันคือเรื่องจริง ต้องทนในเรื่องนี้แหละ ! มองที่เป้าหมายเป็นหลัก โดยไม่ใช้อารมณ์
- Time Control: การรักษาเวลาคือเรื่องสำคัญ ทั้งเวลาประชุม เวลานัดส่งงาน เวลาเก็บตังก์ ! ถนนหนทางต้องแม่น ! เพื่อไปหาลูกค้าได้ทันเวลา Google Map ก็ต้องได้ รถติดตรงไหนต้องรู้ ทางลัดต้องได้ ทางด่วนต้องขึ้นถูกลงเป็น ไม่จำเป็นต้องมีรถ แต่บอกทาง Taxi ได้
- Personality: ยังไงก็ไม่ใช่เรื่องของความสวยความหล่อ แต่เป็นเรื่องของ ”บุคลิกภาพ” ที่น่าเข้าหา น่าคุยด้วย เพราะฉะนั้น คนเออี ต้องรู้จักการแต่งตัวให้เป็น เสื้อผ้าหน้าผมต้องได้ ไม่ต้องเป๊ะเวอร์ แต่สร้าง identity ให้ตัวเองให้โดดเด่น เพราะมันจะ represent ถึงตัวตนของเออีเพื่อให้เกิด First Impression และพาไปถึง Trustable เสริมทัพด้วยการพูดจาให้น่าเชื่อถือ ถือเป็นการสร้าง Image ที่ดีให้กับตัวเอง
ที่เหลือคือความรู้พื้นฐานในสายงานเออีด้านเฉพาะทาง เช่น AE. ในเอเจนซี่โฆษณา ก็ต้องรู้เรื่องพื้นฐานการตลาดและโฆษณา ดังนั้นผมพูดได้เต็มปาดกว่า “ใครๆก็สามารถเป็นเออีได้” อาชีพเออีต้องสวยจากสมอง คือความสวยที่อยู่ยืนยงของอาชีพเออี เพราะคนที่ฉลาด จะดูสวยขึ้นมาทันที ! จริงไหมครับ ? และที่สำคัญสุดๆ…อย่าลืมดูแลตัวเองกันด้วย Work Life Balance จะได้ไม่เครียดตายซะก่อนนะครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น