ฝุ่นวันนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ในวันที่อากาศสกปรกเพราะฝุ่นพิษ ร่างกายจึงต้องการทำความสะอาด

เราต้อง ‘ตื่นตัว’ ถึงการป้องกันตัวการอยู่ใน ‘ฝุ่นพิษ’ ที่มันเป็นภัยต่อสุขภาพร่างกายกันจริงๆจังๆแล้วครับ เราไม่ควรใช้ชีวิตกันอย่างปกติ  เพราะไม่ใช่แค่เฉพาะระบบหายใจเพียงอย่างเดียว แต่ผมว่ารวมไปถึง ‘ผิวหนัง’ และ ‘ดวงตา’ ของเราด้วย การป้องกันตัวเองในเบื้องต้นด้วยการสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ยิ่งเราอยู่ในสภาวะที่อากาศสกปรกนานวันเข้า ร่างกายหลายๆ คนเริ่มมีสัญญาณตอบสนองต่อภัยอันตรายของฝุ่นร้ายนี้กันบ้างแล้ว เช่น แสบตา เคืองตา ตาแดง แสบจมูก น้ำมูกไหล ผื่นขึ้นที่ใบหน้าผิวหนัง หรือพบสิวขึ้นในโพรงจมูก ดังนั้นต้อง “ทำความสะอาดฝุ่นพิษ” ให้กับ จมูก ดวงตา และใบหน้าที่บอบบางของเราด้วยเหมือนกัน

ไอเท็มส์สู้ฝุ่น ในวันที่ร่างกายจึงต้องการทำความสะอาด

1. การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ

คนที่เป็นภูมิแพ้หรือพวกไซนัสอักเสบจะชินกับการล้างจมูกด้วยน้ำเกลืออยู่แล้วครับ เพราะต้องทำความสะอาดจมูกบ่อยๆ ซึ่งการทำความสะอาดจมูกนี้นอกจากจะช่วยฆ่าเชื้อโรคแล้ว ยังจะช่วยชะล้างเอาสิ่งสกปรก รวมถึง “ฝุ่นพิษ” ที่เข้าไปเกาะในโพรงจมูกเราด้วยครับ

น้ำเกลือ หรือ “โซเดียมคลอไรน์” มีขายตามร้านขายยาหรือร้านสะดวกซื้อ (ขวดสีเขียวๆก็ได้ แต่มีหลายยี่ห้อ) จะใช้คู่กับหลอดฉีดยา (ไซริ้ง) หรือจะทำน้ำเกลือเองก็ได้ แต่ต้องใช้เกลือบริสุทธิ์และน้ำที่สะอาดมากๆและต้องทำเป็นด้วย หรือจะซื้อแบบชุดน้ำเกลือล้างจมูกสำเร็จรูปมาใช้เพื่อความสะดวก ก็มีอุปกรณ์สำหรับช่วยล้างจมูกให้สะดวกขึ้นครับ

หรือจะเป็นแบบสเปรย์น้ำเกลือพ่นจมูกก็ได้ครับ แบบนี้ก็จะสะดวกในการใช้งานหรือใช้ล้างจมูกไม่ยาก ใช้วิธีพ่นเข้าน้ำเกลือไปในโพรงจมูก ที่ผมชอบใช้ก็จะเป็นสเปรย์น้ำทะเลเจือจาง เวลาที่ไม่สบายมีน้ำมูกก็ใช้สเปรย์น้ำเกลือพวกนี้ลดอาการคัดแน่นของโพรงจมูกได้ด้วยครับ

2. การล้างตาด้วยโลชั่นตา

ประสบการณ์ส่วนตัวเลยครับ 2-3 วันที่ผ่านมารู้สึกไม่สบายตามากๆ เคืองตาบ่อย ตกบ่ายๆเย็นๆจะแสบตา และขี้ตาเยอะขึ้นแปลกๆในตอนตื่นนอนตอนเช้า เลยคิดว่าปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว การ “ล้างตา” ต้องมาแล้วครับ

ฝุ่นสามารถเข้าไปในตาเราได้ตลอดเวลา (แถมมันไม่มีอะไรป้องกันซะด้วย) น้ำยาล้างตาสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปครับ และก็มีหลายสูตร หลายราคา หลายยี่ห้อ แต่มันมีอายุการใช้งานประมาณ 1-3 เดือนหลังจากเปิดใช้แล้ว 

ยี่ห้อที่ผมซื้อมาใช้เป็นขวดแก้ว แต่ราคาสูงอยู่ 169- แหนะ ข้างขวดเขียนว่าใช้ล้างได้ทุกวัน แต่เท่าที่หาข้อมูลจากแหล่งต่างๆดูจักษุแพทย์/เภสัชฯ ไม่แนะนำให้ใช้ทุกวัน เอาเป็นว่า “ใช้ตอนที่เรารู้สึกเคืองตาหรือมีฝุ่นเข้าตาแล้วกัน”  เพราะคุณสมบัติที่เขียนไว้เหมาะกับกรุงเทพตอนนี้มาก

และสาวๆที่เค้าแต่งตาจัดเค้าใช้ตัวนี้ล้างตากันด้วยเพราะ ฝุ่น eyeshadows เกาะที่ตา *ใครใส่คอนแทกเลนส์อยู่น่าจะเปลี่ยนมาเป็นใส่แว่นแทนไปก่อน หรือสลับมาใช้แว่นในแต่ละวันบ้างครับ เพราะถ้าทำความสะอาดคอนแทกเลนส์ไม่ดีพอ น่าจะมีปัญหากับสุขภาพของดวงตาแน่ๆครับ

3. การเช็ดหน้าด้วยคลีนเซอร์

สาวๆที่แต่งหน้าเค้าจะชินกับการเช็ดหน้าดีครับ ตัวนี้คือไอเท็มส์จำเป็นสำหรับทุกคนไปแล้ว นอกจากจะเช็คชำระคราบครีมที่สะสมและเครื่องสำอางแล้ว  ยังช่วยชำระสิ่งสกปรก “โดยเฉพาะฝุ่น” ที่อาจแทรกลึกไปในรูขุมขนได้ด้วย โดยฝุ่นมันอาจก่อให้เกิดสิวหรือการระคายเคืองได้ 

การล้างหน้าด้วยสบู่/โฟม/เจลอย่างเดียว อาจทำความสะอาดใบหน้าไม่พอ โดยเฉพาะพวกสารกันแดดครับ  สารตกค้างจึงเป็นต้นเหตุของคนที่หน้าชอบเป็นสิว ลองใช้ดูแล้วจะรู้ว่าแต่ละวันเราต้องผจญกับฝุ่นเยอะมากขนาดไหน เพราะสิ่งที่มันถูกเช็ดออกมาจากหน้าเรานั้นมีสิ่งสกปรกซ่อนอยู่เยอะจนมองไม่เห็นได้ด้วยตา

4. การฟอกอากาศด้วยเครื่องฟอก

เครืองฟอกอากาศกลายเป็นสิ่งจำเป็นไปแล้วครับ ไม่เฉพาะแค่คนที่เป็นภูมิแพ้อากาศ “ผมใช้เครื่องฟอกอากาศในห้องนอนมาแล้วหลายปี เหมือนว่า เราล้างทำความสะอาดจมูกมาแล้ว เราก็ควรหายใจในห้องที่มีอากาศที่สะอาดๆด้วย โดยเฉพาะตอนนอน ก็อยากหายใจเอาอากาศสะอาดฟอกปอดบ้าง

แต่ด้วยราคาเครื่องฟอกอากาศก็ไม่ใช่ของถูก แต่คุ้มค่าระยะยาวกับสุขภาพที่ต้องดูแล ก็ไม่แน่ว่าในอนาคตอันใกล้นี้ เครื่องฟอกอากาศจะกลายเป็นอีก 1 เครื่องใช้ไฟฟ้าจำเป็นภายในบ้านไปแล้วก็ได้ครับ แต่ก็อีกนั้นแหละครับ เครื่องฟอกอากาศมันก็มีหลายยี่ห้อ หลายรุ่น หลายฟังก์ชั่นให้เลือกใช้งานตามเงินในกระเป๋า

และสำหรับเพื่อนๆคนไหนที่เป็นสายวิ่งออกกำลังกายตามสวนสาธารณะต่างๆในเมือง ผมอยากแนะนำให้เปลี่ยนการวิ่งแบบ outdooe มาวิ่งในลู่วิ่งแบบ indoor กันก่อนนะครับ เพราะแทนที่เราจะสุขภาพดี จะกลายเป็นว่าเราต้องสูดเอา PM 2.5 มากขึ้น

เช็คโปรโมชั่นไมเซล่าคลีนเซอร์ที่ร้านออนไลน์ของคุณ


อากาศสกปรกเพราะฝุ่นพิษ ร่างกายจึงต้องการทำความสะอาด

“ฝุ่นพิษ” มันก็สะสมโดยเกิดมาจากทุกๆคนที่อาศัยอยู่ในอยู่ร่วมกันในมหานครแห่งนี้นี่แหละครับ ทั้งจากท่อไอเสียรถยนต์ รถประจำทาง โรงงาน เผาขยะ และการใช้ชีวิตประจำวันของเราทุกคน ฯลฯ ในขั้นตอนของการแก้ปัญหา ‘ฝุ่นพิษ’ ในระยะยาวคงต้องทำเป็นนโยบายวาระแห่งชาติจากรัฐบาลสักที ไม่อย่างนั้นมันคงไม่หายไปเอง อย่างแน่นอน แล้วเราคงจะได้ยินข่าวการเสียชีวิตเพราะมะเร็งปอดกันเยอะขึ้น

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รีวิวเสริมจมูกผู้ชายที่ Goodwill Clinic สไตล์เกาหลี โดยหมอณัฐออกแบบให้ด้วย Mantis รุ่นพิเศษ

รีวิว Spring Airlines สายการบินโลคอสของจีน กับการบินไปเที่ยวเมืองจีนครั้งแรกด้วยสายการบินนี้

เทคนิค 5 ข้อ การเตรียมเงินและใช้จ่ายเงินวอนก่อนเที่ยวที่ประเทศเกาหลีใต้