รีวิวป.โท นิเทศศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ สาขานิเทศศาสตร์ดิจิทัล ม.เกษตรศาสตร์ [CAI.KU]
จำได้ว่าตอนหาข้อมูลสมัครเรียนต่อป.โท กับสิ่งที่เราอยากรู้ มันไม่ค่อยมีข้อมูลจากคนที่เรียนจริงๆ สักเท่าไหร่ ดังนั้นบล็อกนี้ผมขอรีวิวประสบการณ์ชีวิตนิสิต ป.โท ม.เกษตร ในสาขาที่ผมกำลังศึกษาต่ออยู่แบบจัดเต็ม เพื่อให้ข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับผู้ที่สนใจจะคิดเรียนต่อ ป.โท นิเทศฯ ม.เกษตรครับ
รีวิวเรียนป.โท นิเทศศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ ม.เกษตร |
หลักสูตรนิเทศศาสตร์ดิจิทัล ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
หลักสูตร ป.โท ที่เค้าพึ่งปรับปรุงใหม่ให้เข้ากับยุคดิจิทัลครับ เป็นรุ่นแรกที่เปลี่ยนมาใช้ชื่อ “นิเทศศาสตร์ดิจิทัล” แต่เป็นรุ่นที่ 12 ของสาขานี้ ซึ่งถ้าดูจากรายวิชาที่ต้องเรียน ก็จะมีชื่อวิชาใหม่ๆ รวมถึงเนื้อหาในรายวิชาอื่นๆ ที่เน้นในเรื่องการสื่อสารดิจิทัล แต่ก็จะมีวิชาเบื้องต้นของนิเทศศาสตร์ให้ได้ปรับพื้นฐานกันด้วยครับ
ผมไม่ขอลงรายละเอียดในวิชาเรียน เพราะสามารถดูโครงสร้างหลักสูตรและรายละเอียดวิชาเรียนต่างๆ ได้จากเว็บไซต์ของภาควิชา CAI แต่ส่วนตัวผมชอบวิชา Data Analytics กับ Digital Marketing เพราะเนื้อหาที่เรียนมันทันสมัยและเอามาใช้ในการทำงานได้ดีมากๆ
ส่วนวิชาเลือกนั้นภาควิชาก็จะให้นิสิตได้โหวตกัน และเปิดวิชานั้นมาสอนในเทอม 2 ครับ (เราไม่ต้องลงทะเบียนเอง มีเจ้าหน้าที่ช่วยลงให้คร้าบ)
ภาควิชานิเทศศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ |
3 เหตุผลที่ผมเลือกให้ตัวเองเรียนต่อที่นี่
- เดินทางสะดวก เรื่องนี้ผมคิดว่าสำคัญมาก เพราะเราต้องเข้ามาเรียน 2-3 วัน/สัปดาห์ ถ้าเดินทางมาง่าย ใกล้ที่ทำงาน หรือใกล้ที่พักก็จะได้ไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทางมากนัก (แต่ย้ำอีกทีว่าวันศุกร์เย็นแถวบางเขนรถติดมากค้าบ)
- ค่าเทอม ป.โท ม.รัฐบาลที่สบายกระเป๋า มี คชจ. “แบบเหมาจ่าย” อยู่ที่ 2 แสนนิดๆ ตกแล้วอยู่ที่ 51,765 บาท/เทอม สามารถแบ่งจ่ายค่าเทอมเบาๆ เป็นรายเดือนได้ 17,300x3 เดือน ก็จ่ายผ่านระบบทางออนไลน์ด้วย QR Codeแต่เอาจริงๆ ระบบหน้าเว็บยังคร่ำครึอยู่เพราะดูผ่านมือถือต้องถ่างแล้วถ่างอีก และหาอะไรไม่ค่อยเจอเพราะ UX/UI ห่วยจริง และแต่ละอย่างหน้าตาคนละจักรวาล
- ความน่าเชื่อถือของมหาวิทยาลัยรัฐบาลอันดับต้นๆ ของประเทศ เอาจริงๆ เหตุผลข้อนี้ก็ยังไม่มั่นใจมากนัก เพราะไม่ได้การันตีถึงคุณภาพของหลักสูตรกับความรู้ที่เราจะได้ แต่ก็คาดหวังไว้ว่าการมีนามสกุลสถาบันการศึกษาซึ่งเป็นที่ยอมรับพ่วงท้าย รวมกับประสบการณ์สายวิชาชีพมาหลายปี จะช่วยให้มีตัวเลือกได้กว้างขึ้นหลังจากเรียนจบ
บรรยากาศการเรียนการสอน ป.โท |
การทำวิทยานิพนธ์ (Thesis) และวุฒิปริญญาโท
สำหรับเกณฑ์การจบหลักสูตร ป.โท นิเทศศาสตร์ดิจิทัล เราจะต้องเรียนเก็บหน่วยกิตให้ครบ และได้เกรดเฉลี่ย GPA. ไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ แล้วก็จะต้องทำ “วิทยานิพนธ์” เพื่อเผยแพร่ทางวารสารวิชาการ หรือตีพิมพ์ในงานประชุมวิชาการก็ได้ อย่างใดอย่างหนึ่งด้วยครับ
ข้อนี่แหละที่ผมก็ยอมรับว่าหนักใจที่สุด เพราะเคยเรียนป.โท สมัยทำงานใหม่ๆ ยอมรับว่า ตอนนั้นยังไม่พร้อมทั้งเวลา และความไม่พยายามอย่างเต็มที่ของเรา ทำค้างอยู่แค่ 3 บท และก็ทำต่อไม่ทันจนได้! ทั้งที่เก็บหน่วยกิตครบหมดแล้ว... ครั้งนี้เลยตั้งใจมากที่จะทำให้ได้ครับ
วุฒิปริญญาโทที่เราจะได้รับหลังเรียนจบ คือ ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (นิเทศศาสตร์ดิจิทัล), ศศ.ม. (นิเทศศาสตร์ดิจิทัล) / Master of Arts (Digital Communication Arts), M.A. (Digital Communication Arts) ซึ่งสิ่งที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดของการเรียน ป.โท กับ ป.ตรี ก็คือ การทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งด้านทฤษฎีใดๆ และ Critical Thinking โดยใช้การคิดวิเคราะห์จะเยอะกว่าปริญญาตรี
ข้อดีมากๆ คือ ทำให้เราจะเข้าใจข่าวและกระแสโลกที่เกินขึ้น โดยปล่อยวางมากขึ้นมากๆ จากสารพัดทฤษฎีนั่นแหละ
การนำเสนองานหน้าห้องเรียน |
อาจารย์ผู้สอนประจำหลักสูตร ป.โท
ตอนแรกก็แอบหวั่นๆ ใจเรื่องอาจารย์ที่จะมาสอนเราอยู่ไม่ใช่น้อย แต่พอได้มาเรียนบอกได้เลยว่าอาจารย์ที่สอนน่ารักทุกท่านเลยคร้าบ. อาจารย์ที่สอนเราทุกท่านจะเป็นอาจารย์ประจำภาควิชา ซึ่งอาจารย์เค้าก็จะมีงานสอนสอนทั้ง ป.ตรี และ ป.โท ส่วนใหญ่ ก็จะจบ ดร. และมีตำแหน่งทางวิชาการเกือบทุกคน
นอกจากอาจารย์ประจำวิชาที่เป็นผู้สอนเราเองแล้ว ก็จะมีวิทยากรมาบรรยายพิเศษด้วยเป็นครั้งคราวแล้วแต่รายวิชาครับ… เทอมที่ผ่านมาผมก็เห็นว่ามี Guests ที่มีความเชี่ยวชาญและมีความสามารถให้ความรู้กับพวกเราหลายท่านอยู่ ต.ย.อย่างเช่น คุณหนุ่ย การตลาดวันละตอน มาบรรยายพิเศษเรื่อง Data Analytics
อาจารย์ผู้สอนภาควิชานิเทศศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ |
การใช้งาน Online และอีเมล์ของนิสิต
หลังจากเป็นนิสิตเรียบร้อย เราจะได้อีเมลชื่อเรา @ku.th เอาไว้ใช้งานครับ เป็นหน้าตาอีเมลเป็นของ GMAIL และก็จะมีอีเมลอีกอันที่เป็นของไมโครซอฟต์ @live.ku.th ที่ให้เราเอาไว้ใช้บริการต่างๆของ Microsoft เช่น office 360 ก็ใช้ได้จาก account ของมหาวิทยาลัยครับ
ดังนั้นเราก็จะมีทั้งแอคเค้าทั้ง KU-Login ของมหาลัย (ใช้กับระบบสารสนเทศนิสิตและมหาลัย) + อีเมล GMAIL + อีเมล Live รวมถึงห้องเรียนของเราก็ยังมี WIFI ของมหาลัยให้ใช้ฟรี (แต่ต้อง set-up MAC Address ในระบบ) หรือถ้าใครใช้ AIS WIFI ก็มีสัญญาณแรงๆ ให้ใช้กันด้วยครับ
เอกสารประกอบการสอนของอาจารย์จะถูกส่งผ่าน Google Classroom |
นอกจากนั้นก็ยังมีระบบ Online สำหรับนิสิต ที่เราต้องใช้การลงทะเบียน, จ่ายเงินค่าเทอม, ดูเกรด ฯลฯ แต่ๆ อย่างที่บอกไป
แต่หน้าตาก็จะประมาณรูปด้านล่างที่ไม่ Support การเข้าผ่านมือถือใดๆ ทั้งเมนูและข้อความก็จะละลานตาที่ไม่ได้ผ่านการคิด UX/UI อย่างที่เห็น..
มีแอปฯ ด้วยนะ แต่เหมือนจะไม่ค่อยได้ใช้ครับ มันใช้ยาก หลายเมนูใช้ไม่ได้ และไม่ practical เท่าไหร่
ระบบสารสนเทศน์นิสิต ม.เกษตร |
แต่ก็ยังดีที่มหาลัยมีสวัสดิการด้านซอฟต์แวร์ให้ใช้ค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็น Software Anti Virus หรือ Software ตระกูล Adobe ต่างๆ ให้เราได้ (ยืม) ใช้กันด้วย ผมก็ยืมมาใช้เหมือนกันนะ ของลิขสิทธิ์ฟรี ก็ดีกว่าของเถื่อนที่อัพเดทอะไรไม่ได้เลย ซึ่งวิธีการก็ค่อนข้างจะยุ่งยากหน่อย แต่ก็มี tutorials วิธีการดาวน์โหลดและติดตั้งให้ครับ
เอกสารประกอบการเรียนการสอน
เอกสารทั้งหมดของอาจารย์จะถูกส่งมาทาง Google Classroom ครับ เช่น พวกไฟล์สไลด์ พาวเวอร์พอยท์ต่างๆ จะเป็น e-doc ทั้งหมด หรือบางท่านถนัด Facebook/LINE เค้าก็จะตั้งกรุ๊ปเพื่อส่งไฟล์กันทางนั้นก็แล้วความสะดวกของคนสอน... ถ้าใช้ iPad ก็จะสะดวกมากๆ สมัยตอนผมเรียนป.ตรี มีแต่ชีสและหนังสือ เรื่องนี้เลยเป็นเรื่องใหม่และสะดวก ลดโลกร้อน
เกณฑ์การสอบภาษาอังกฤษ KU-EPT
หนึ่งในเกณฑ์บังคับก็คือ ต้องยื่นคะแนนภาษาอังกฤษด้วยนะ.. (เข้ามาเรียนก่อนค่อยยื่น) แต่ถ้าคะแนนไม่ผ่าน ก็ต้องลงเรียนวิชาภาษาอังกฤษเพิ่มอีก 1 ตัว ที่แนะนำคือ คะแนน KU-EPT เพราะค่าสอบไม่แพง และสอบสะดวกที่มหาลัย’ ซึ่งต้องได้คะแนนมากกว่า 50 คะแนนขึ้นไป จาก 100 คะแนนคร้าบ (ส่วนตัวผมผ่านมาอย่างฉิวเฉียด.. ไชโย)
เพื่อนๆร่วมรุ่น CAI 12 |
ตึกเรียนนิเทศศาสตร์ คณะมนุษย์ศาสตร์ ใน ม.เกษตร
ภาควิชานิเทศศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์มีตึกเล็กๆ 2 ชั้นเป็นของตัวเองด้วยจ้า อาคารนี้ชื่อ “กัญจนานิทัศน์” หรืออาคารมนุษย์ศาสตร์ 3 ตึกนี้จะอยู่ในบริเวณตึกของคณะมนุษย์ฯ นี่แหละ จารย์เล่าให้ฟังว่าตึกนี้เป็นตึกเก่าที่เค้าเอาไว้เก็บโหลดองสัตว์ (เหมือนจะมีผีด้วยนะ แต่ก็ยังไม่เคยเจอ)
ตึกของเรานี้ก็จะมีห้องเรียน ห้องพักอาจารย์ ห้องทานข้าวอาจารย์ ห้องสำนักงานของภาควิชา และห้องน้ำในตัวที่สะอาดตลอดเพราะมีแม่บ้านประจำตึกดูแล เราก็จะเรียนกันชั้น 2 ซึ่งมีห้องเรียนแค่ 1 ห้อง (เรียนห้องเดิมก็มีแอบเบื่อเหมือนกันนะ)
ตึกเรียนนิเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ |
ห้องเรียน สาขานิเทศศาสตร์ดิจิทัล
รุ่นผมได้เรียนแบบ On-Site 100% แล้ว ซึ่งก็ต้องเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยทุกวิชา.. เรื่องห้องเรียนของที่นี่ อาจจะเป็น Weakness เล็กน้อย เพราะรู้สึกว่าห้องเรียนไม่ทันสมัยเท่าไหร่ ทั้งโต๊ะเรียน ทั้งสภาพห้องและอุปกรณ์ใดๆ ยังดู Old School (แต่แอร์หนาวมากนะ)
ด้วยความที่ห้องจุเต็มที่ได้ประมาณ 30 คน แต่พวกเรามีกัน 14 คนก็เลยนั่งกันอย่างหลวมๆ แถวนึงนั่งกัน 2 คนอย่างเหงาๆ แต่ก็ได้นั่งเรียนแบบ Social Distancing ในยุคโควิด ซึ่งเอาจริงๆ ทำงานกลุ่มก็แทบจะสุมหัวกันอยู่แล้วคร้าบ
ห้องเรียน ป.โท ของสาขาวิชานิเทศศาสตร์ดิจิทัล |
"เราเรียนกันวัน เสาร์ - อาทิตย์ ในเทอม 1 ทั้งวัน ส่วนเทอม 2 มีเรียนวันศุกร์ค่ำด้วย มีเรียนออนไลน์กันบ้างเป็นครั้งคราว เช่น Make up class หรือเรียนเสริม มีปิดเทอมประมาณ 1 เดือน"
ส่วนด้านล่างตึกเรียนจะเป็นโต๊ะประจำของพวกเราคร้าบ เอาไว้นั่งรอเพื่อน กินข้าวกลางวัน กินขนม กินกาแฟ ทำการบ้าน ฯลฯ มีน้องๆ นิสิต ป.ตรี มานั่งกันอยู่บ้างนิดหน่อยนานๆที.. เพราะพวกเราจะมาเรียนกันเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และศุกร์ก็มาค่ำแล้ว คนก็เลยดูโล่งๆน้อยๆ เหงาๆ ประมาณรูปด้านล่างนี้ครับ
บรรยากาศด้านล่างของตึกเรียน |
บรรยากาศการเรียนการสอนของ CAI.
ยากบ้าง ง่ายบ้าง สนุกบ้าง ง่วงบ้าง สลับกันไป.. คาบนึงประมาณ 3 ชั่วโมง การสอนของอาจารย์ก็จะเป็นการบรรยายเนื้อหาประกอบสไลด์ เราก็จะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนั่งฟัง โดยจะมีกิจกรรมกลุ่มบ้าง เดี่ยวบ้าง เสนอความคิดเห็นบ้าง ทำเวิร์คช้อปกันบ้าง ก็แล้วแต่สไตล์อาจารย์ผู้สอนแต่ละท่าน (อ๋อ บางวิชามีอาจารย์ 2-3 ท่านสอนในหัวข้อที่แตกต่างกันก็ด้วยเช่นกันครับ)
ส่วนเรื่องการบ้านและงานต่างๆ ของ ป.โท ก็มีให้ทำชิ้นเล็กบ้าง และชิ้นใหญ่บ้างตามมูลค่าคะแนน.. แต่อาจารย์เค้าบอกเองว่าจะพยายามไม่ให้การบ้านพวกเราเยอะ จะเน้นให้ทำงานจบในห้องเรียนมากกว่า เพราะเค้าเข้าใจว่าส่วนใหญ่เราทำงานประจำกัน.. เอาจริงๆ บางวิชาก็จำเป็นต้องมี เพราะข้อดีก็คือเราจะได้ทบทวนหลังเรียนไปด้วย (แต่มีทุกวิชาก็ม่ายไหวจ้าาา)
และที่สำคัญเลยก็คือ “งานการนำเสนองานหน้าห้อง” ที่ทำให้ทุกคนได้ฝึกการพูด การเรียบเรียงความเข้าใจ เพื่อที่จะอธิบายแนวความคิดของตัวเองให้เพื่อนๆ และอาจารย์ฟังได้ งานนำเสนอแบบเดี่ยวก็มี นำเสนองานกลุ่มที่ต้องแบ่งกันกันพูดก็มีคร้าบ มีทุกแนวเลยครับ
บรรยากาศบริเวณตึกเรียนคณะมนุษยศาสตร์ |
การตัดเกรดและการประเมินผลการเรียน
การให้เกรดของอาจารย์ก็จะมีทั้งตัดเกรดแบบอิงเกณฑ์ และอิงกลุ่มซึ่งอาจจะไม่เหมือนกันในแต่ละรายวิชาครับ โดยคะแนนก็จะมาจากคะแนนเก็บ การเข้าห้องเรียน การมีส่วนร่วมในห้องเรียน งานที่ต้องส่ง และก็มีสอบ FINAL ด้วย หรือบางวิชาก็ไม่มีสอบปลายภาค แต่จะมีงานชิ้นใหญ่ให้ เช่น Final Project หรือการนำเสนอผลงานวิชาการครับ
จากประสบการณ์ส่วนตัวผมพอจะสรุปได้ว่า คะแนนเก็บส่วนใหญ่ก็จะไม่ต่างกันมากเท่าไหร่สำหรับคนที่มาเรียนและส่งงานสม่ำเสมอ แต่คะแนนที่จะทำให้เกรดได้ต่างกันเลยก็คือ คะแนนสอบ FINAL ครับ และการสอบ FINAL ทั้งหมดจะเป็นแบบเขียนทุกวิชา ที่จำได้แม่นเลยคือ "โจทย์ 3-4 บรรทัด แล้วให้สมุด 8 หน้า 1 เล่มมาให้เราเขียนตอบ!" โหดแค่ไหนคิดดูแล้วกัน... (พอเขียนจริงๆ รู้เลยว่าบางโจทย์แค่ 8 หน้า.. น้อยไป)
เกณฑ์การตัดเกรด ป.โท นิเทศสาสตร์ดิจิทัล |
ห้องคอมพิวเตอร์ที่แว๊บไปเรียนบ้าง 3-4 ครั้ง
ห้องคอมพิวเตอร์ของคณะมนุษย์จะอยู่ติดกับตึกที่เราเรียนครับ มีบางวิชาที่จำเป็นต้องเข้าเรียนในห้องคอมฯ ด้วยเป็นบางครั้งคราว เช่น การวิเคราะห์ดาต้าผ่านโปรแกรมต่างๆ, การเรียน SPSS ของวิชาสถิติที่ต้องใช้ทำวิทยาพิพนธ์
เพื่อนร่วมห้องเรียนระดับ ป.โท
เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่เราไม่รู้อะไรเลยตอนสมัคร.. จะรู้จักกันก็ตอนวันปฐมนิเทศน์ละ รุ่นผมมีทั้งหมด 14 คน ส่วนตัวคิดว่ามีความ Diversity ค่อนข้างสูง มีตั้งแต่ จบ ป.ตรีแล้วเรียนต่อเลย ไปจนถึงเจ้าของบริษัทก็มี ทำราชการก็มี ทำงานเอกชนก็มี ซึ่งเฉลี่ยอายุน่าจะประมาณ 25-35 สูงสุด 45 และความหลากหลายนี่เองที่จะฝึกให้เรา "เข้าใจ" ความแตกต่างได้เป็นอย่างดี
ส่วนภาคปกติของสาขานี้ก็มีครับ เรียนวันธรรมดาซึ่งค่าเทอมก็จะถูกกว่า... แต่เท่าที่สัมผัสมาได้คือ ส่วนใหญ่จะเป็นน้องๆ ที่พึ่งจบ ป.ตรีกัน เลยคิดเองว่าอาจจะไม่น่าเหมาะกับคนทำงานแล้ว.. แต่ถ้าใครสะดวกวันธรรมดาและอย่างจ่ายค่าเทอมในราคาประหยัดกว่าก็สามารถเรียนเป็นภาคปกติได้เหมือนกัน เพราะอาจารย์และการสอนก็เหมือนกับภาคพิเศษทั้งหมด ต่างกันแค่วันเรียนแค่นั้น
บรรยากา่ศการเรียนในห้องเรียน |
ในมุมผมมองว่าโชคดีมากๆ ที่มีเพื่อนร่วมรุ่นที่น่ารักทุกคนเลย พอได้เจอกับบ่อยขึ้น บ่นเรื่องทำการบ้านด้วยกันมากขึ้น ก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น ชวนกันไปไหนต่อไหนกันบ่อยขึ้น โดยรุ่นผมมี “คุณแม่” อยู่ 1 คน ที่เป็นผู้อาวุโสที่สุด ก็เหมือนเป็นอาจารย์ฝ่ายปกครองไปด้วยในตัว
ซึ่งทุกคนก็พยายามช่วยกันเรื่องเรียนเรื่องการบ้านเรื่องงานในห้องกันเท่าที่จะช่วยได้ โดยเฉพาะน้องกิ๊ฟที่ทำทุกอย่างให้แม่แล้ว “เสื้อประจำรุ่น” ของพวกเรานี่ก็ได้แม่ม่อนเป็นผู้ใหญ่ใจดีออกค่าใช้จ่ายในการผลิตและแจกทั้งพวกเราและอาจารย์ทุกคนเป็นของขวัญปีใหม่
กิจกรรมของมหาวิทยาลัย |
กิจกรรมของโปรแกรมฯ และของมหาลัย'เกษตร
สถานะความเป็นนิสิตทำให้เราได้ร่วมกิจกรรมของมหาลัยได้ทุกอย่างเลย ก็อยู่ที่ว่าเราจะให้เวลาให้มันไหม อย่างปีที่ผมกำลังเรียนอยู่มีงานวิ่งครบรอบ 80 ปี ก็ทำให้พวกเราได้ไปร่วมกิจกรรมกับเค้าด้วย ของสาขา ป.โทเองก็มีไปดูงานกันนะ เห็นว่าแค่ในประเทศนี่แหละ
อิ่มทุกมื้อก่อนเข้าเรียนและช่วงพัก |
สวัสดิการด้านอาหารและขนมฟรี
เรื่องนี้ไม่เล่าไม่ได้.. เพราะไม่รู้มาก่อนว่าเรามีสวัสดิการอาหารด้วยนะ ทั้งอาหารมื้อเที่ยงของวันเสาร์-อาทิตย์ และ อาหารมื้อเย็นของวันศุกร์ แต่ละมื้อก็จะมีความหลากหลาย อร่อยบ้าง ไม่อร่อยบ้าง สลับผัดเปลี่ยนกันไปเรื่อยๆ ถ้าเจอเจ้าไหนถูกปากเราก็จะบอกเจ้าหน้าที่ประจำภาคว่า “เอาเจ้านี้บ่อยๆ” นะคร้าบ... หลังๆเลยได้โออิชิมาแทน เย่
รวมถึงที่หน้าห้องเรียนก็มีกาแฟ 3-in-1 มีตู้กดน้ำร้อน-น้ำเย็นบริการด้วย บางครั้งก็มีขนมอร่อยๆ มาวางบ้าง มีขนมปี๊บมาวางบ้าง ขนมห่อมาวางบ้าง ถ้ามี Rare Item มาวางเมื่อไหร่ แป๊บเดียวก็เกลี้ยงจ้า (อาจารย์ที่น่ารักนี่แหละชอบแอบเอาขนมมาวางไว้)
สวัสดิการอาหารกลางวันฟรี |
ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านขนมของกิน
โอ้โห้.. เรื่องของกินนี่ไม่ต้องเป็นห่วงเลย ในมหาลัยมีร้านกาแฟเพียบ... ทั้งสตาร์บัค, อะเมซอน, เนสกาแฟคาเฟ่, Specialty Coffee Cafe ฯลฯ ล่าสุดมีตู้เต่าบินที่ตึกเราแล้วด้วย… ร้านขนมของกินช่วงหิวที่พวกเราฝากท้องกันบ่อยๆ จะเป็นร้านชื่อ “บาร์ไก่” เดิน 10 ก้าวก็ถึง
แต่ๆ ถ้าอยากเดินออกกำลังกายหน่อย ก็เดินไปไกลอีกนิด เช่น ไป 7-11 ที่บาร์ใหม่ หรือไป ศูนย์อาหารตึกวิศวะ (มีร้านเครปอร่อย และเด็กๆ หน้าตาดีเป็นอาหารตาอาหารใจ) บาร์ใหม่ ที่เป็นศูนย์อาหารใหญ่ของ ม.เกษตร ที่มีอาหารและขนมอร่อยเยอะมาก ราคาไม่แพงด้วย
สตาร์บัคที่ต้องเดินไกลนิดนึง |
ระบบรายงานเกรดออนไลน์
เอาจริงๆ ตอนเกรดออกผมนี่ลุ้นมาก เพราะเราก็ตั้งใจเรียนและตั้งใจสอบมากๆ ลึกๆแล้วก็แอบหวังว่าเราขอเกรดดีๆ เป็นรางวัล.. สรุปเกรดทุกตัวออกมาได้ 4.00 จริงๆ ซึ่งในรุ่นผมมี 2 คนที่ได้มาคร้าบ บอกเคล็ดลับตรงนี้คือ ต้องแม่นเรื่องความเข้าใจในเนื้อหา (ไม่เน้นท่องจำสักเท่าไหร่.. แต่ก็อาจจะต้องจำหลักการบ้าง) และต้องมีการประยุกต์นำมาเขียนตอบในการสอบ FINAL ให้ได้นั่นเองครับ
เพราะเรื่องการเขียนข้อสอบของแต่ละคนนี้แหละ ที่อาจารย์เค้าจะให้คะแนนความแตกต่างได้ชัดเจนที่สุดนะครับ
ระบบรายงานเกรดเฉลี่ยของนิสิต |
ส่วนตัวผมจบนิเทศฯ เอกโฆษณา จาก ม.กรุงเทพคับ พื้นฐานด้านนิเทศศาสตร์และการสื่อสารยังคงพอจำได้อยู่.. แต่ที่จะเป็นประโยชน์และช่วยในเรื่องเรียนได้ดีมาก คือ ประสบการณ์การทำงานด้านสื่อสารการตลาดอีเวนท์และดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งในเอเจนซี่โฆษณามาหลายปี
สุดท้ายนี้หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับทุกคนที่กำลังหาข้อมูลการเรียนต่อในหลักสูตรปริญญาโท (ภาคพิเศษ) สาขานิเทศศาสตร์ดิจิทัล ภาควิชานิเทศศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ (CAI.) ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์นะครับ และหวังว่าจะได้เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันนะคร้าบ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น