การมาส์กหน้าเป็นวิธีการดูแลผิวในรูปแบบนึง ที่ผมก็ทำก็ต่อเมื่อรู้สึกได้ว่าหน้าเริ่มหมองคล้ำ หรือไปเที่ยวมาแล้วได้ออกแดดจัดๆ นานๆ จนหน้าดูหมองคล้ำ และถ้าวันไหนว่างๆ พอมีเวลาและไม่ลืมก็จะเลือกใช้มาส์กที่ชอบมาใช้ครับ ขณะมาส์กหน้าผมว่าก็เหมือนได้ทำสปาอโรม่าหน้าไปไปด้วยในตัว ตัวนี้เป็นมาส์กเลือด AHA+BHA ของ Ordinary ครับ
|
เซรั่มมาส์กเลือดแดงผลัดเซลล์ผิวของ Ordinary |
AHA/BHA ที่ใช้มาส์กหน้าคืออะไร
ในวงการแพทย์ผิวหนังนิยมให้ AHA/BHA ในการขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพมาช้านานแล้วครับ แต่ก็จะใช้ปริมาณความเข้มข้นที่ใช้แตกต่างกันออกไปตามปัญหาสภาพผิว โดย AHA เป็นสารสกัดที่มาจากธรรมชาติ (หรือที่เรียกว่ากรดผลไม้) ส่วน BHA เป็นสารสังเคราะห์ขึ้นมา ซึ่งทั้ง 2 ตัวนี้มีฤทธิ์เป็นกรดที่ใช้ผลัดเซลล์ผิวให้เรานั่นเอง
The Ordinary แบรนด์จากแคนาดา
อย่างแรกเลยที่ต้องบอกคือ แบรนด์นี้ไม่ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยครับ แต่ที่ได้รับความนิยมมากๆ และเป็นที่รู้จัก เป็นเพราะเกิดการลองใช้แล้วดีจนบอกกันปากต่อปาก อย่างที่สองคือ ความดีงามของราคา The Ordinary ที่จ่ายเพียงหลักร้อย.. แต่ประสิทธิภาพเทียบเท่าเวชสำอางแบรนด์เนมดังๆได้เลยทีเดียวครับ
|
The Ordinary แบรนด์ Skincare จากประเทศแคนนาดา |
การทำงานของ Ordinary AHA+BHA Peeling Solution
ที่เราเรียกตัวนี้ว่ามาส์กเลือดเพราะสีเซรัมของเค้าจะเป็น “สีแดงเข้ม” รวมถึงเนื้อเซรั่มในขวดจะมีลักษณะ “ข้นหนืด” เหมือนเลือดเลยคร้าบ.. กับส่วนผสมหลัก AHA 30% + BHA 2% ซึ่งเจ้า 2 ตัวนี้แหละที่เป็นส่วนผสมฮีโร่ที่ทำให้เจ้ามาส์กตัวนี้โดดเด่นในเรื่องการผลัดเซลล์ให้ผิวหน้านั่นเอง
ขั้นตอนการมาส์กหน้าด้วยมาร์คเลือด
หลังจากที่เราทำความสะอาดผิวหน้าเรียบร้อยแล้ว ให้บีบเซรั่มเลือดขึ้นมาเกือบจะเต็มหลอด ค่อยๆ บีบมาส์กเซรั่มหยดใส่นิ้วมือทีละนิดๆ แล้วทาไปลงบนผิวหน้าให้ทั่ว หรือถ้ามั่นใจก็บีบหลอดเซรั่มลงบนผิวหน้าให้ทั่วได้เลยก็ได้ครับ (จำเป็นต้องเว้นรอบตาและปากไว้) ถ้าจุดไหนบางไปสามารถหยดเพื่อทาซ้ำได้…
ส่วนเรื่องกลิ่นโอเคนะ เพราะผมไม่ชอบกลิ่นหอมๆอยู่แล้ว (ผมแพ้น้ำหอม) เรียกว่าไม่ฉุดจมูกเลย
|
ขั้นตอนการมาส์กหน้าด้วยมาส์กเลือด Ordinary |
ห้ามมาส์กเกิน 10 นาที และห้ามใช้ทุกวัน
ใช่แล้วครับ ข้อควรระวังของการใช้เซรั่มมาส์กตัวนี้ก็คือ “ดาเมจเค้าค่อนข้างแรง” ด้วย AHA และ BHA ที่เข้มข้นจริง ดังนั้นระยะเวลาของการมาส์กสำคัญมาก คือ “ห้ามมาส์กเกิน 10 นาที” ไม่อย่างนั้นผิวหน้าเราอาจจะระคายเคืองและเกิดการอักเสบได้
เมื่อครบเวลาแล้วให้ล้างออกด้วยสำลีชุบน้ำเปล่าก็พอครับ เช็คมาส์กออกอย่างเบามือ และใช้น้ำล้างอีกทีจนหน้าสะอาดใส เพิ่มความชุ่มชื่นหลังมาส์กด้วยโทนเนอร์และตามด้วยครีมบำรุงผิวปกติได้เลย
ความรู้สึกระหว่างใช้
ขณะที่ใช้น้องตัวนี้ในขณะที่ทาแรกเริ่มยังไม่ค่อยรู้สึกอะไรมากครับ แต่ผ่านมา 1-2 นาทีแรกจะรู้สึกยิบๆบนผิวหน้า ความรู้สึกจริงๆที่เกิดขึ้นคือ “จั๊กจี้” ที่ผิวเบาๆครับ ไม่ได้รู้สึกถึงอาการแสบหน้า หรือคันจนอยากเกาแต่อย่างใด
แต่ก็ให้ทนจนเกิน 5-10 นาที เพื่อให้มาส์กได้ทำงาน *ระหว่างนี้ถ้าไม่ไหวก็ให้ล้างออกได้เลย
|
ระหว่างใช้มาส์กเลือดระรู้สึกคันยิบๆบนผิวหน้า |
สภาพผิวหลังใช้
หลังเช็ดหน้าแล้วรู้สึกได้เลยว่า “ผิวหน้าใสสะอาดขึ้น” แต่ก็มาพร้อมกับสภาพผิวที่ดูแห้งขึ้นด้วย พวกรอยแดงรอยดำในครั้งแรกไม่ค่อยเห็นชัดเจนเท่าไหร่ ดังนั้นหลังใช้เครื่องสำอางที่มีสารประกอบของ AHA/BHA ก็อย่าลืมปกป้องผิวหน้าด้วยครีมกันแดดด้วยในทุกๆวันนะครับ
*ไม่อย่างนั้นผิวหน้าอาจจะเกิดการไวต่อแสงแดดและก่อให้เกิดการแพ้แสงแดดได้ครับ
|
เช็ดออกเบาๆด้วยสำลีชุบน้ำ |
มาส์กเลือด Ordinary AHA+BHA เหมาะกับใคร
มาส์กเลือด AHA + BHA ของ The Ordinary ตัวนี้เหมาะมากกับเพื่อนๆ ที่มีปัญหาเรื่องความหมองคล้ำของใบหน้าเพราะช่วยในเรื่องผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ รวมถึงคนที่อาจมีปัญหาเรื่องรอยดำรอยแดงจากสิว ลดการเกิดสิวและลดสิวอุดตันได้ด้วยคร้าบ แต่ที่ต้องระวังเลยก็คือ.. ไม่เหมาะกับคนที่มีผิวแพ้ง่ายและบอบบางนะครับ เพราะของเค้าแรงจริง
|
ช่วยในเรื่องผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ หลังใช้จะรู้สึกว่าหน้าใสขึ้น |
การดูแลผิวหน้าให้กระจ่างใส
ส่วนตัวแล้วผมดูแลผิวหน้าอยู่แล้วในทุกๆวันด้วยการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสารกันแดดครับ เพราะสาเหตุหลักที่ส่งผลให้สภาพผิวหน้าเราเกิดความหมองคล้ำและริ้วรอยก็คือ “แสงแดด” นั่นเอง ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงแสงแดดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ นอกนั้นก็เป็นเรื่องการทำความสะอาดผิวและดูแลด้วยมอยส์เจอไรเซอร์อย่างสม่ำเสมอครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น