ระวัง SD Card ปลอมไม่มีคุณภาพ เช็คลิสต์ SD Card ก่อนซื้อว่าแท้หรือปลอม

SD Card (Secure Digital Card) คือ Memory Card หรือ Flash Memory ประเภทหนึ่ง เป็นการ์ดหน่วยความจำที่เราเอาไว้ใช้เก็บไฟล์ดิจิทัลเหมือน USB Flash Drive นี่แหละครับ ส่วนใหญ่เราก็จะนิยมใช้กับ Digital Devices ต่างๆที่รองรับ เช่น กล้องดิจิทัล เพื่อเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลให้สามารถอ่านและบันทึกไฟล์ได้

ดังนั้น SD Card กลายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับกล้องถ่ายรูปกล้องถ่ายวีดีโอดิจิทัล  ยังไงก็ต้องพึ่งอุปกรณ์เสริมชิ้นนี้ด้วยถึงจะใช้งานได้ ดังนั้นผมอยากจะแชร์การเลือกสเปคเพื่อซื้อ SD Card สำหรับใส่ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ให้เหมาะกับการใช้งานของเรากันครับ

ระวัง SD Card ปลอมไม่มีคุณภาพ เช็คลิสต์ SD Card ก่อนซื้อว่าแท้หรือปลอม

1. ยี่ห้อ / แบรนด์ (Brand)

ทำไมยี่ห้อถึงสำคัญ? เพราะยี่ห้อบ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือ คุณภาพและการดูแลหลังการขาย ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีเงื่อนไขและระยะเวลาการรับประกันที่แตกต่างกันออกไป (แบบ Lifetime ก็มี!) ถ้าอยากรู้ว่ายี่ห้อไหนดี ไม่ดีอย่างไร “สอบถามได้ที่อากู๋” เหมือนผมได้เลยครับ 

แต่ไม่ว่าจะเลือกยี่ห้อใดๆก็แล้วแต่… ต้องซื้อจากแหล่งขายที่ไว้ใจได้เท่านั้น เพราะปัจจุบันมีการจำหน่ายของปลอมเกรดต่ำกันเยอะมากๆ แล้วจะหาว่าผมไม่เตือน

*แต่ละยี่ห้อเค้าก็จะมีรุ่นที่อาจมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไปตามเทคโนโลยีครับ เช่น SanDisk Ultra, SanDisk Extreme

SD Card ของปลอมยี่ห้อเสมือน

2. ความจุ (Capacity)

ความจุเป็นตัวแปรอันดับแรกๆ ที่เราเลือกซื้อ SD Card ใช่ไหม.. ถ้าใช่! อาจจะต้องดูด้วยครับว่า อุปกรณ์ของเรารองรับความจุของการใส่ Memory Card ได้สูงสุดเท่าไหร่  ซึ่งความจุที่วางขายในตลาดที่หาซื้อได้ทั่วไปตอนนี้มีตั้งแต่ 2GB จนถึง 1TB เลยครับ 

ยิ่งความจุเยอะขึ้น ราคาก็จะสูงตามเช่นกัน แน่นอนว่าการเลือก Memory Card ที่มีความจุสูงๆ ก็ช่วยให้เราเก็บข้อมูลต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ในอันเดียว *แต่ให้ระวังเอาไว้อย่างหนึ่งว่า ถ้ามันพัง หรือหาย คือ สูญสิ้นข้อมูลทั้งหมด

*ความจุปลอม ของลอกเลียน (หรือของปลอม) เราจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าความจุของที่ระบุมาบนแพคเกจจิ้งนั้นถูกต้องหรือไม่ นอกจากจะตรวจสอบความจุจาก Software หรือ Application ที่ใช้ในการตรวจสอบความจุของ Memory Card

ความจุปลอม ความจุไม่ตรงกับโฆษณา

3. ความเร็วในการอ่าน/บันทึก (Class)

หลายคนไม่รู้ว่า “ที่ความจุเท่ากัน” แต่ราคาต่างกันหลายเท่า.. จริงๆแล้วมาจากเรื่องมาตราฐานความเร็วในการอ่าน/เขียนข้อมูลที่แตกต่างกันนี่แหละครับ (เลข 2 ตัว ที่ระบุ ส่วนใหญ่ความเร็วในการอ่าน จะมากกว่าความเร็วในการบันทึกหรือเขียน)

เทคโนโลยีใหม่ๆ มีมาตราฐานในการเขียนและอ่านข้อมูลที่สูงขึ้น จึงทำให้อ่าน/บันทึกได้เร็วขึ้นด้วย บวกกับความจุที่มากขึ้นเช่นกัน ซึ่งทำให้มันเหมาะกับการบันทึกภาพ/วีดีโอที่ต้องการความละเอียดสูงๆ เช่น 4K / 8K หรือ RAW 4K โดยเทคโนโลยีที่มีความเร็วสูงสุดในการบันทึกในปัจจุบันอยู่ที่ 1,200MB/s และความเร็วสูงสุดในการอ่านในปัจจุบันอยู่ที่ 1,700MB/s *SanDisk รุ่น Extreme Pro CFexpress ราคาประมาณ 10,000.-THB ในขนาดความจุ 128GB (ย้ำ! ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีของอุปกรณ์ที่ใช้งานด้วยว่ารองรับหรือไม่)

เช็คโปรโมชั่น SD Card / Micro SD Card ที่ร้านออนไลน์ของคุณ

ดูได้จากสัญลักษณ์บนการ์ด เช่น C+2,4,6,10 เช่น C10 = Speed Class 10 คือ Memory Card ที่มีความเร็วในการเขียน 10MB/s (10 เมกะบิตต่อวินาที ) หรือ U+1,3 เช่น U3 = UHS Class 3 คือ Memory Card ที่มีความเร็วในการเขียน 30MB/s (30 เมกะบิตต่อวินาที ) หรือ V+6,10,30,60,90 เช่น V90 = Video Class 90 คือ Memory Card ที่มีความเร็วในการเขียนวีดีโอได้ที่ 90MB/s (90 เมกะบิตต่อวินาที ) เป็นต้น

*เสริมความรู้ C10 = U1 = V10 สัญลักษณ์ทั้ง 3 ตัว มีความเร็วในการเขียนเท่ากันที่ 10MB/s ** ถ้าเอาไว้ใช้ถ่ายวีดีโอ ให้พิจารณาการ์ดจาก Video Class เช่น ถ้าจะเอาไปใช้กับกล้องวีดีโอ 8K ต้องหาการ์ดประเภท V60 หรือ V90 เท่านั้น

ความเร็วในการอ่าน บันทึก เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อ SD Card

4. ประเภทของการ์ด : SD Card / microSD Card

มีหลากหลายรุ่นตาม เทคโนโลยี x ความเร็วอ่าน x ความเร็วเขียน x ความจุ เรียงตามเทคโนโลยี (ที่อธิบายไปก่อนหน้านี้) คือ SD, SDHC, SDXC และ SDUC ครับ ซึ่งในแต่ละประเภทของ memory card นั้นจะถูกกำหนดด้วยขอบเขตความจุไว้อย่างชัดเจน + ความเร็วการบันทึก/อ่านข้อมูลของการ์ด 

ทำให้แต่ละประเภทของ memory card มีราคาที่แตกต่างกัน ซึ่งต้องเลือกตามวัตถุประสงค์ตามการใช้งานที่แตกต่างกันด้วยครับ (แต่ในปัจจุบันราคาไม่ได้แตกต่างกันมากนัก จึงต้องไปดูที่อุปกรณ์หลักของเราว่า “สามารถ” รองรับกับ memory card “ประเภทไหน” ได้บ้างนั่นเองครับ)

*ดูได้จากสัญลักษณ์บนการ์ด : มีการกำหนดขอบเขตความจุไว้อย่างชัดเจน- SDSC มีความจุตั้งแต่ 4MB – 4GB- SDHC มีความจุตั้งแต่ 4GB – 32GB- SDXC มีความจุตั้งแต่ 32GB – 2TB- SDUC มีความจุตั้งแต่ 2TB – 128TB

วิธีดูสัญลักษณ์ต่างๆ บน SD Card
*แน่ใจแล้วเหรอครับ.. ว่าเลือกซื้อ SD Card / microSD เพียงเพราะราคาถูกอย่างเดียว ระวังของปลอม ระวังความจุปลอม ระวังสัญลักษณ์ปลอม 

เช็คโปรโมชั่น SD Card / Micro SD Card ที่ร้านออนไลน์ของคุณ

5. ราคา SD Card/microSD Card

ราคา SD Card / microSD Card ยุคนี้ถูกกว่าเมื่อก่อนเยอะมากๆ “ถูกเหมือนซื้อผักซื้อปลา” ใช้กันได้อย่างทิ้งๆขว้างๆได้เลย ซึ่งผมอยากจะบอกว่า “ราคากับเทคโนโลยี" มันมักจะสวนทางกันเสมอครับ

ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้คงพอจะเดาได้นะครับว่า ถ้า SD Card หรือ microSD Card ที่ราคาแตกต่างกัน เพราะจากปัจจัยดังที่กล่าวไว้ด้านบน ซึ่งได้แก่ ยี่ห้อ x ความจุ x ความเร็ว x ประเภทการ์ดนั่นเอง

มีความเป็นไปได้สูงมากที่การจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ในอนาคต อาจไม่ได้อยู่ในรูปแบบของอุปกรณ์เสริมที่ต้องใส่หรือต่อกับ Digital Devices แต่อาจเป็นการจัดเก็บแบบ Cloud Storage เต็มรูปแบบทุกที่ทุกเวลา เช่น ถ่ายรูปถ่ายวีดีโอผ่านกล้อง แล้วมันสามารถบันทึก Realtime บน Cloud ได้เลย คอนเซปฟังดูล้ำ แต่มีความเป็นไปได้สูงนะ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รีวิวเสริมจมูกผู้ชายที่ Goodwill Clinic สไตล์เกาหลี โดยหมอณัฐออกแบบให้ด้วย Mantis รุ่นพิเศษ

รีวิว Spring Airlines สายการบินโลคอสของจีน กับการบินไปเที่ยวเมืองจีนครั้งแรกด้วยสายการบินนี้

เทคนิค 5 ข้อ การเตรียมเงินและใช้จ่ายเงินวอนก่อนเที่ยวที่ประเทศเกาหลีใต้