รีวิวร้อยไหมโครงตาข่าย Mesh Scaffold จากเกาหลีที่ Anjali Clinic
ปัญหาหนักใจที่ผมค่อนข้างเป็นกังวลใจมากๆ ก็คือ เรื่องผิวหน้าหย่อนคล้อย แก้มห้อย และเหนียงออก เพราะอายุมากขึ้น กรอบหน้ามันไม่กระชับเต่งตึงเหมือนสมัยวัยรุ่นแล้ว จิ้มเข็มจนเจ็บหลายหนก็แก้ปัญหาไม่ได้ ถ่ายรูปด้านข้างมุมต่ำกดคางนี่คือไม่รอด นี่คือปัญหาใหญ่มากๆ
รีวิวร้อยไหมโครงตาข่าย Mesh Scaffold จากเกาหลีที่ Anjali Clinic |
ร้อยไหมด้วยนวัตกรรม Mesh Scaffold
ดังนั้นบล็อกนี้ผมจะพาทุกคนมารีวิวแก้เหนียงที่ผมพึ่งทำมาครับ มาดูกันว่าการศัลยกรรมนี้มันจะช่วยแก้ปัญหาเหนียงออกของผมในระยะยาวได้หรือไม่ วิธีนี้ก็คือ การร้อยไหมโครงตาข่าย หรือ Mesh Scaffold เป็นนวัตกรรมใหม่จากเกาหลี เส้นไหมจะแข็งแรง มีเงี่ยงบนไหม และมีไหมโครงตาข่ายล้อมรอบตลอดเส้น
ไหมโครงตาข่าย หรือ Mesh Scaffold |
Anjali Clinic สาขาถนนเกษตร-นวมินทร์
ผมยอมพลีชีพพลีกาย พาทุกคนมาส่องการศัลยกรรมร้อยไหมโครงตาข่ายกันที่ “แอนจาลีคลินิก” สาขาถนนเกษตร-นวมินทร์กันครับ เป็นสาขาใหม่ที่คุณหมอเจี๊ยบเค้าตั้งใจทำให้ลูกค้า ที่นี่จอดรถสบาย ภายในคลีนิคหรูหรา ดูมีความน่าเชือถือมากๆ
หลังจากที่ได้กรอกประวัติ และสักถามถึงข้อสงสัยกับพนักงานเรียบร้อย (น้องๆ พนง.ที่นี่เป็นกันเอและพูดจาดีมาก) เค้าก็จะพาเราขึ้นไปถ่ายรูปที่ห้องถ่ายรูปเพื่อเก็บเป็นประวัติไว้คร้าบ เสร็จแล้วก็ไปพบคุณหมอกันเลย
บรรยากาศภายในคลีนิค Anjali Clinic สาขา 2 ถนนเกษตร-นวมินทร์ |
วันนี้ผมได้ “คุณหมออัง” มาดูแลการแก้ไขเหนียงและรูปหน้าให้ผมครับ คุณหมอได้สอบถามปัญหาและให้ข้อมูลถึงวิธีการร้อยไหมโครงตาข่ายแบบใหม่ ซึ่งเป็นไหมแบบเงี่ยง เทคโนโลยีไหมแบบใหม่นี้จะถูกล้อมรอบด้วยโครงตาข่ายแบบ 360 องศา
ซึ่งนอกจากจะช่วยยกกระชับกรอบหน้าและช่วยแก้ไขเรื่องเหนียงให้ผมได้แล้ว ยังช่วยเรื่องกระตุ้นคอลลาเจน โดยไม่ก่อให้เกิดแผลเป็นชั้นใต้ผิวด้วย
คุณหมออัง ที่ Anjali Clinic |
หมออังยังบอกอีกว่าการร้อยไหมโครงตาข่ายแบบใหม่นี้จะเห็นผลหลังทำทันที 2-3 สัปดาห์หน้าจะเริ่มใสและกระชับขึ้น หลังทำ 3 เดือนผิวหน้าจะแข็งแรงมากขึ้น และจะช่วยยกกระชับกรอบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติได้นาน 1-2 ปีเลยทีเดียว..
เมื่อคุณหมอทำให้ผมมีความมั่นใจมากขึ้นจนอยากทำแล้ว… ผมก็พร้อม (เจ็บ) แล้วครับ
น้องๆผู้ช่วยคุณหมอก็พาผมมาเตรียมความพร้อมกันอีกห้องนึง ซึ่งก็จะทำความสะอาดใบหน้า หรือคลีนสภาพผิวหน้าจากเครื่องสำอางและครีมกันแดดก่อน จากนั้นจะให้เราทานยาแก้ปวดรอไว้เลย
หมออังทำการมาร์คจุดและวัดตำแหน่งการร้อยไหมบนหน้า |
ขั้นตอนการร้อยไหมยกกระชับกรอบหน้า
จากนั้นคุณหมอก็จะดำเนินการต่อครับ โดยหมอจะทำการวัดและทำเครื่องหมายบนหน้าผม ซึ่งครั้งนี้คุณหมอจะใช้ไหมโครงตาข่ายจำนวน 6 เส้น (ข้างละ 3 เส้นตามตำแหน่งที่ได้วาดเอาไว้)
เมื่อพร้อมแล้วก็จะคลุมส่วนอื่นๆด้วยผ้าที่เขียว (เหมือนผ้าในห้องผ่าตัด) หมอบอกว่า “ห้ามจับผ้านะคะ เพราะเป็นผ้าที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว” เสร็จแล้วก็ทำการฉีดยาชาครับ จะบอกว่า เจ็บสุดตรงแค่ฉีดยาชานี่แหละ !! ตอนฉีดยาชาจะแสบๆจี๊ดๆนิดนึง แต่หลังจากนี้จะไม่รู้สึกเจ็บอะไรแล้ว
ขั้นตอนฉีดยาชาก่อนการร้อยไหม |
พอยาชาออกฤทธิ์แล้ว.. ไม่มีความเจ็บเลยสักนิด
คุณหมอก็จะเริ่มแทงเข็มตรงตำแหน่งที่ได้มาร์คเอาไว้อย่างเบามือครับ แต่ๆๆ ผมรู้เลยว่าหมอออกแรงเยอะมาก เพราะผมรู้สึก กึกๆกั๊กๆ ที่หน้าผมตลอดเวลา เพราะปลายเข็มจะเป็นเข็มทู่ ซึ่งระหว่างนี้คุณหมอก็จะอธิบายทุกขั้นตอนตลอดเวลาครับ และผมก็สามารถสื่อสารกับคุณหมอได้
ผมร้อยไหมทั้งหมด 6 เส้น ด้านละ 3 เส้น โดยเจาะเข้าตรงไรผมแต่ละข้าง |
และแล้วก็ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงครับ หลังทำทันที ผมรู้สึกได้ทันทีว่าหน้ามีกรอบรูปชัดขึ้น (น่าจะทำให้เหนียงหายไปด้วยครับ) ตอนนี้ไม่ได้รู้สึกเจ็บเลย เพราะยาชายังออกฤทธิ์อยู่ แต่รู้สึกตึงๆที่หน้า และรอยแผลที่เป็นรูเล็กมากๆ อยู่ตรงตีนผม และบริเวณโหนกแก้มทั้ง 2 ข้าง
การดูแลหลังจากร้อยไหมเสร็จแล้ว
เสร็จแล้วคุณหมอก็จะอธิบายการดูแลรักษาหน้าหลังการร้อยไหม เช่น อย่าพึ่งโดนน้ำ (ล้างหน้าไม่ได้) พร้อมให้ยาแก้อักเสบและยาแก้ปวดมาทานด้วย (ซึ่งอาการปวดจะเกิดขึ้นหลังจากยาชาหมดฤทธิ์ และคืนนั้นผมนอนก็ปวดตุบๆตึงๆทั้งคืน) แต่ไม่ต้องกลัว เพราะอาการปวดจะค่อยๆหายและดีขึ้นตามลำดับครับ
หลังร้อยไหมทันทีที่ Anjali Clinic |
สำหรับไหมโครงตาข่ายหรือ Mesh Scaffold ที่ผมใช้นี้เป็นไหมแบบละลายได้ ผลิตที่เกาหลีใต้ที่ได้รับสิทธิบัตรทั่วโลก และใช้ได้อย่างถูกต้องสำหรับการทำศัลกรรมบนใบหน้าในเมืองไทยครับ และคุณหมอที่แองจาลีได้รับ Certified Trainer มาแล้วด้วย
ด้วยเหตุนี้ผมจึงมั่นใจกับการทำศัลยกรรมร้อยไหมกรอบหน้าที่นี่มากๆ
หลังร้อยไหมวันที่ 2 |
หลังร้อยไหม 1 สับดาห์
ในช่วง 1-2 วันแรกหลังจากทำ อาจจะลำบากเรื่องการทานข้าวนิดนึงนะครับ เพราะเราจะอ้าปากกว้างๆ ไม่ได้เหมือนตอนปกติ ผมจึงต้องตัดอาหารเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อให้กินง่ายเคี้ยวง่ายด้วย… กลายเป็นว่า หิว แต่ทานยาก ก็ดี ลดความอ้วนไปในตัว ฮ่าๆๆ ( รูปด้านล่างคือวันที่ 2 จะเห็นว่าไม่มีอาการเขียวม่วงบวมช้ำให้เห็นเลย )
หลังร้อยไหม 1 เดือน |
ก่อน-หลังร้อยไหม 1 เดือน |
วันที่ 3 อาการปวดไม่มีแล้ว อ้าปากกว้างๆได้เกือบปกติ กินข้าวได้คำปกติแล้ว แต่ยังรู้สึกตึงๆ ที่คางอยู่เล็กน้อย ก็เลยจะพยายามไม่อ้าปากกว้างมากครับ แล้วก็ล้างหน้าอย่างเบามือมากๆ และยังแปะสก๊อตเทปกันเชื้อโรคอยู่ และก็ยังกินยาก้อักเสบครั้งละ 1 เม็ดหลังอาหาร
รีวิวร้อยไหมโครงตาข่าย Mesh Scaffold จากเกาหลีที่ Anjali Clinic |
หลังร้อยไหมโครงตาข่ายครบ 1 เดือน
การร้อยไหมที่ผมพลีกายยอมทำนี้ก็เพื่ออยากให้ปัญหาเหนียงของผมมันหายไปครับ จะเห็นว่าวันที่ 30 หน้าแลดูมีกรอบขึ้นกว่าก่อนการร้อยไหม… ซึ่งไม่เกิน 8 เดือนหลังจากนี้ ไหมก็จะละลายไปหมด แต่รูปกรอบหน้าจะยังคงกระชับได้อีก 1-2 ปี ซึ่งจะต่างจากไหมทั่วไปที่ละลายแล้วก็จะหมดประสิทธิภาพครับ
อยากบอกตรงนี้ว่าพอใจมากๆครับ เพราะนอกจากกรอบหน้าจะดูกระชับขึ้นแล้ว ผมยังรู้สึกว่าหน้าเด็กลงเพราะความใสขึ้นอีกด้วย ต้องขอบคุณหมออังที่แอนจาลีคลีนิค มา ณ ที่นี้ด้วยนะคร้าบ
รีวิวร้อยไหมโครงตาข่าย Mesh Scaffold จากเกาหลีที่ Anjali Clinic |
ค่าใช้จ่ายในการร้อยไหมโครงตาข่าย
มาถึงตรงนี้ผมเชื่อว่าหลายๆคนคงอยากทราบค่าใช้จ่ายในการร้อยไหมแบบใหม่นี้กันแล้วใช่ไหมครับ การคิดค่าใช้จ่ายคุณหมอเค้าจะคิดตามจำนวนเส้นไหมที่ใช้ครับ เพราะแต่ละคนก็มีปัญหาของใบหน้าที่ไม่เหมือนกัน แต่ถ้าทำเก็บหรอบหน้าอย่างผมใช้ทั้งหมด 6 เส้น คร้าบ ถ้าราคาปกติก็จะอยู่ราวๆ สี่หมื่น+ แต่มีโปรฯบ่อยอยู่ ลองสอบถามที่คลีนิคได้ครับ
เพื่อนคนไหนที่ประสบปัญหาเรื่องผิวหน้าหย่อนคล้อยห้อยไม่กระชับ ลองติดต่อสอบถามไปได้ที่แองจาลีคลีนิคได้เลยคร้าบ คุณหมอที่นี่น่ารักใจดีและยังตรงไปตรงมากับลูกค้าอีกด้วย ไหนๆจะทำแล้วผมว่าเลือกที่ดีที่สุดและเอาที่ไว้ใจได้ดีกว่าครับจะได้ไม่เสียใจภายหลัง
ใครอยากสอบถามติดต่อโดยตรงที่คลีนิคได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 097-045- 3232 หรือเข้าไปดูผลงานต่างๆ ได้ที่ Anjali Clinic ได้เลยครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น