เครื่องมือการตลาดออนไลน์ที่ทรงพลังในยุคดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง
หนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดที่นักการตลาดควรต้องวางแผนในการทำการตลาดยุคดิจิทัล คือ ดักจับความอยากและต้องการ (Capture Demand) ผ่านการค้นหาบน Google ของผู้บริโภค ด้วยการวางกลยุทธ์จากพฤติกรรมการค้นหาของผู้บริโภคผ่าน Generic Keyword, Problem Keyword, Nich Keyword, Long Tail Keyword, Brand Keyword และ Competitor Keyword
เครื่องมือการตลาดออนไลน์ที่ทรงพลังในยุคดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง |
แต่การดักจับความต้องการให้ได้ผลนั้น ก็จะต้องทำให้เว็บไซต์ของเราหรือข้อมูลที่ทำหน้าที่ดักจับความต้องการนั้นอยู่ในอันดับต้น ๆ บน Google ให้ได้เสียก่อน เราเรียกการทำให้เว็บไซต์องเราติดในอันดับแรกหรืออันดับต้น ๆ นั้น เรียกว่าการทำ “Search Engine Optimization” หรือ SEO
SEO เป็นวิธีการปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์และการปรับปรุงคอนเทนต์ในเว็บไซต์ให้ Google ชอบ รวมถึงเทคนิคต่าง ๆ ที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและต้องสามารถใช้เครื่องมือต่าง ๆ ของ Google ที่จะช่วยในการเคราะห์การทำ SEO อย่างเป็นระบบ นอกจากการทำ SEO จะไม่เสียค่าใช้จ่ายด้านโฆษณาแล้ว ยังสามารถเพิ่มยอดขายของสินค้าหรือบริการในระยะยาวได้ดีอีกด้วย เรียกได้ว่า การทำ SEO จะช่วยเปลี่ยนจากลูกค้าที่ไม่รู้จักเราให้มาเป็นลูกค้าเราได้ โดยที่ลูกค้าเลือกซื้อของเราจากการตัดสินใจด้วยตัวเอง ซึ่งไม่ใช้จากโฆษณาชวนเชื่อ
การทำความเข้าใจ Modern Customer Journey |
ดังนั้นถ้าผู้บริโภคค้นหาด้วย Keyword ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการต่าง ๆ บน Google แต่เรายังไม่สามารถเข้าไปอยู่ตรงจุดตัด (Contact point) นั้นได้ แสดงว่าเรากำลังสูญเสียโอกาสที่จะเพิ่มลูกค้าบนออนไลน์ในอนาคตได้อย่างน่าเสียดาย แต่ ๆ ผู้อ่านไม่ต้องกังวลไป..
ถ้าเรายังไม่สามารถทำ SEO ให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับต้น ๆ ได้ เราสามารถแก้ไขปัญหานี้ด้วยการวางแผนการซื้อ Keyword (Paid Search) หรือ Google Ads ผ่านการทำ SEM (Search Engine Marketing) ซึ่งการทำ SEM ก็จะช่วยทำให้เว็บไซต์ของเราถูกแสดงผลในหน้าแรกบน Google ได้ทันที
พฤติกรรมการค้นหาข้อมูลของผู้บริโภคก่อนตัดสินใจ |
แต่นั้นหมายความว่าการทำ SEM ให้ได้ผลนั้น เราจะต้องเข้าใจพฤติกรรมการค้นหากลุ่มเป้าหมาย เข้าใจการทำ Keyword Research เข้าใจรูปแบบการชำระเงินแบบ CPC (Cost Per Click) เข้าใจการเขียนคำโฆษณา (Text Ad) รวมถึงต้องมีเว็บไซต์ปลายทาง (Landing Page) ที่สามารถทำหน้าที่ในการ Convert ได้ดีด้วย
ซึ่งไม่ใช่แค่การดึงให้ลูกค้าคลิกเข้ามาในเว็บไซต์ไม่ถึง 15 วินาทีแล้วก็ปิดไป อย่างน้อย ๆ ถ้ายังไม่ตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการในตอนนี้ ก็อาจจะต้องทำให้เขาอยากรู้จักเรามากขึ้นกว่าเดิมหรือจำเราได้ แค่นี้ก็ถือว่าได้ผลในเบื้องต้นแล้ว ไม่อย่างนั้นเราก็จะต้องจ่ายเงินค่าคลิกให้กับ Google ไปฟรี ๆ โดยที่เราไม่ได้อะไรกลับมา
พีชะ โชติช่วง, นิเทศศาสตร์ดิจิทัล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น